1. วิธีเพาะเมล็ด บนฟองน้ำ สามารถดูได้ใน เมนูขั้นตอนการเพาะเมล็ด
2. นำโฟมมาตัดตามขนาดความกว้างของปากกะละมัง หรือลังโฟม (ในกรณีที่ใช้ลังโฟม หรือ
กะละมังเป็นวัสดุที่ขังสารละลายธาตุอาหาร)ควรให้มีเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่าปากลังโฟม
หรือกะละมัง เพื่อสามารถให้แผ่นโฟมสามารถขึ้นลงได้ตามระดับของสารละลายจากการดูด
ใช้ธาตุอาหาร
3. ทำการเจาะรูของโฟมเพื่อใช้สำหรับปลูกพืช ตามลักษณะของภาชนะที่ใส่น้ำ โดยอาจให้
ระยะของรูห่างตามลักษณะทรงพุ่มของพืชที่ใช้ปลูก (ถ้าปลูกผักไทยให้รูที่เจาะ ห่างกัน
ประมาณ 10 -15 ซม.แต่ถ้าผักสลัด ต้องให้ รูที่เจาะประมาณ 20-25 ซม.)
4. นำน้ำประปา มาใส่ในภาชนะที่ใช้ปลูก เช่น โฟม หรือกะละมัง ให้ความสูงของน้ำแตะราก
ของพืชที่จะนำมาปลูก จากนั้นน้ำสารละลาย A และ B อย่างละเท่าๆกัน มาใส่ใน ลังโฟม
หรือ กะละมัง ที่ใส่น้ำไว้แล้ว โดยการใส่สารละลาย A และ B ต้องทิ้งระยะห่าง ประมาณ 4
ชั่วโมง หรืออาจจะใส่สารละลายชนิดใดเข้าไปก่อนแล้ว 1 ตัว แล้วกวนให้เข้ากับน้ำดีแล้ว ถึง
จะใส่สารอาหารอีกชนิดลงไป เพื่อป้องกันการตกตะกอนของสารละลายทำให้พืชไม่สามารถ
ดูดสายอาหารได้ โดยให้มีค่า PH = 6.5 ส่วนค่า EC =1.5 -2.5 (สำหรับผักไทย กวางตุ้ง) ส่วน
ค่า EC = 1.2-1.4 (สำหรับผักสลัด)
5. จากนั้นใช้ปั๊มอากาศเพื่อเพิ่มอ็อกซิเจนในน้ำให้แก่สารละลายและให้พืชขณะปลูก
6. นำแผ่นโฟมที่เจาะรูไว้แล้ว มาวางลงในภาชนะที่บรรจุน้ำ และมีส่วนผสมของสายละลาย
ผสมอยู่แล้วโดยแผ่นโฟมจะลอยอยู่บนผิวน้ำ
7. นำต้นกล้ามาใส่ถ้วย โดยให้ฟองน้ำ เลยก้นถ้วยลงมาประมาณ 1 ใน 3 ของก้น ฟองน้ำ เพื่อ
ให้รากพืชได้สัมผัสกับน้ำ แล้วนำไปใส่ตามรูที่เจาะไว้ การปลูกในลักษณะนี้ต้องมั่นตรวจดู
สารละลาย และควรเปลี่ยนน้ำและเติมสารละลายใหม่ ประมาณ 7-10 วัน ครั้ง เพื่อต้นกล้าที่
สมบูรณ์
รูป การนำต้นกล้าที่เพาะไว้นำฟองน้ำ มาใส่ในถ้วยปลูก
รูป การนำต้นกล้าที่อยู่ในถ้วยปลูกมาใส่ไว้ในรูที่เจาะบนภาชนะที่เก็บน้ำพร้อมสารละลาย
8. เมื่อพืชเติบโตไปได้ซักระยะเวลาหนึ่ง ประมาณ 15 -20 วัน นับตั้งแต่วัน ลงปลูกในภาชนะ ต้น
พืชก็จะมีรากยาวขึ้นและจำนวนมากขึ้น ให้ทำการลดระดับน้ำลงไปอีก เพื่อเพิ่มอากาศให้กับ
รากพืชจะทำให้พืชเจริญเติบโตได้เร็วขึ้น
9. เมื่อพิืชมีอายุประมาณ 40 - 45 วัน นับแต่วันเพาะเมล็ด ก็สามารถเก็บเกี่ยวนำมารับประทาน
ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น